นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (“TMT” “เรา” “พวกเรา” หรือ “ของเรา“) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ (“นโยบายฯ“) จะอธิบายการเก็บ ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปต่างประเทศของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับจากแหล่งต่าง ๆ ตลอดจนสิทธิของท่านและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว

1.   เกี่ยวกับเรา

TMT เป็นผู้ควบคุมข้อมูลที่เก็บ ใช้ เปิดเผย และโอนไปต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

TMT เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 186/1 หมู่ 1 ถนนทางรถไฟเก่า ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130

TMT เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโตโยต้าทั่วโลก และเป็นผู้ผลิตรายสำคัญที่สุดรายหนึ่งของโตโยต้า มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการเพื่อการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ภายในประเทศไทยและส่งออกเพื่อจำหน่ายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงการให้บริการหลังการจำหน่าย เช่น การซ่อมบำรุงรถยนต์ การให้สิทธิประโยชน์พิเศษ และการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ TMT ยังอยู่ระหว่างเตรียมการสู่การเดินทางอันท้าทายด้วยการพลิกโฉมกิจการสู่การเป็น “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน” (Mobility Company) ในฐานะศูนย์กลางการดำเนินกิจการหลักของโตโยต้าประจำภูมิภาคเอเชีย โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการจำหน่ายและการให้บริการของเรา

2.   วิธีการติดต่อเรา

หากท่านต้องการสอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามนโยบายฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อเราได้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

3.   ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ 

4.   ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของท่านกับเราภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน หรือเพื่อประกอบการปฏิบัติงานให้กับเรา เฉพาะข้อมูลส่วนบุคลลที่ท่านให้ไว้กับเราจากช่องทางต่างๆ โดยมีรายละเอียดในการเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ซึ่งแบ่งได้ตามประเภทและวัตถุประสงค์ได้ดังต่อไปนี้

4.1   ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย ตามวัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

กิจกรรมภายใต้ความสัมพันธ์ตามสัญญาจ้างแรงงาน

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทที่มีความละเอียดอ่อน

1.ศาสนา

 

กิจกรรม Family Day (การจัดเตรียมอาหาร)

2.ข้อมูลสุขภาพ

เช่น ประวัติการรักษาทางการแพทย์ ผลการตรวจสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ

กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ

การพิจารณาเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสวัสดิการ

3.ข้อมูลสหภาพแรงงาน

การหักเงินค่าสมาชิกสหภาพแรงงาน

 

4.2   ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราสามารถเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย ตามวัตถุประสงค์ได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน

(ก) ข้อมูลทั่วไป: เช่น ชื่อ-นามสกุล, เพศ, วันเดือนปีเกิด, อายุ, สัญชาติ, สถานภาพทางการสมรส, ข้อมูลการศึกษา, ข้อมูลสมาชิกครอบครัว, ประวัติการทำงาน, ข้อมูลการตรวจสอบสารเสพติด, ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยรัฐ (เช่น ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น), ลายมือชื่อ, รูปภาพ, รูปถ่าย เป็นต้น

(ข) ข้อมูลการติดต่อ: เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล เป็นต้น

(ค) ข้อมูลการเงิน: เช่น ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร, ข้อมูลบัญชีเงินฝากสหกรณ์, ข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น

(ง) ข้อมูลรถยนต์: เช่น ยี่ห้อ รุ่น ปี สี, ทะเบียนรถยนต์, หมายเลขตัวถัง, หมายเลขเครื่องยนต์, ข้อมูลการเสียภาษีประจำปี, ข้อมูลการซ่อมและการเบิกอะไหล่ เป็นต้น

(จ) ข้อมูลเพื่อการรักษาความปลอดภัย: เช่น การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด, การบันทึกเสียงสนทนา เป็นต้น

4.3 เราไม่มีสิทธิเข้าถึง และจะไม่ทำการเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ท่านไม่เคยให้ไว้กับเรา และไม่ใช่กิจกรรมภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1 และ 4.2 เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้เราทำได้ หรือเมื่อท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้ง

4.4 หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินแก่เรา หรือสมาชิกครอบครัวของท่าน ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านมีอำนาจที่จะกระทำได้และเราได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นตามนโยบายฯ นี้ โปรดให้นโยบายฯ นี้แก่บุคคลแหล่านั้นเพื่อให้รับทราบและ/หรือขอความยินยอม (หรือใช้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ เป็นข้อยกเว้นความยินยอม) ให้ส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่เราตามนโยบายฯ นี้

4.5 ท่านจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ให้ไว้กับเราเป็นข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นจริง

5.   วิธีการรับและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจได้รับและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่เรา: ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เราโดยตรง มักจะมีขึ้นเมื่อท่านติดต่อเรา กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์หรือกรอกเอกสาร การสมัครสมาชิกหรือลงทะเบียน ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงาน

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลภายนอก: บางครั้งเราจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านจากผู้อื่น เช่น บริษัทในเครือของโตโยต้า ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า เลกซัส และโตโยต้าชัวร์ หรือบริษัทคู่ค้าของเรา หากบริษัทเหล่านั้นได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่เราตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และ/หรือซึ่งท่านได้เคยให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลไว้กับบุคคลดังกล่าวแล้วแต่กรณี

6.   วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1   เราเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ (เรียกรวมกันว่า “วัตถุประสงค์“)  

(ก) เพื่อความสัมพันธ์ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือเพื่อประกอบการปฏิบัติงานให้กับเรา: เพื่อการบริหารจัดการและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องภายใต้การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือเพื่อประกอบการปฏิบัติงานให้กับเรา การดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการสรรหาบุคลากร การฝึกอบรมพนักงาน และสนับสนุนการบริหารการจ้างงาน การประเมินผลงานและความสามารถในการปฏิบัติงาน การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับการทำงาน คำสั่ง ประกาศ และนโยบายของบริษัท การจัดสวัสดิการตามสภาพการจ้างให้กับพนักงานและ/หรือครอบครัวของพนักงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ การรักษาทางการแพทย์ การประเมินต้นทุนการรักษาทางการแพทย์ กิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ สหภาพแรงงาน การรายงานสภาพการเกิดอุบัติเหตุจราจร (นอกงาน)

(ข) การปฏิบัติตามกฎหมาย: เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนดและหน้าที่ตามกฎหมายของเรา

(ค) ความเสี่ยง: เพื่อการจัดการความเสี่ยงตรวจสอบประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยง

(ง) การปกป้องผลประโยชน์ของเรา: เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงปลอดภัย เช่น การเข้าออกพื้นที่ การถ่ายภาพ และ บันทึกวิดิทัศน์ เพื่อใช้สิทธิของเราและปกป้องผลประโยชน์ของเราเมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และตอบสนองต่อข้อร้องเรียน เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อตรวจจับและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่หรือระบบคอมพิวเตอร์ของเรา

(จ) การตรวจจับการทุจริต: เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านการทุจริต ระบบ และการควบคุมธุรกิจอื่นๆ

(ฉ) ธุรกรรมองค์กร: ในกรณีของการขาย การโอน การควบรวม การฟื้นฟูกิจการ หรือกรณีอื่นที่คล้ายกัน เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว

(ช) ชีวิต: เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

6.2   เราเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย ประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้

(ก) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เราอยู่ภายใต้บังคับ

(ข) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่าน หรือองค์กรที่ท่านเป็นตัวแทน เป็นคู่สัญญากับเราหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมายของเราและของบุคคลภายนอก

(ง) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

(จ) เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธิของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

(ฉ) ในกรณีที่จำเป็นต้องอาศัยความยินยอมจากท่านสำหรับกิจกรรมบางประเภทซึ่งเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อนการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.3   ในกรณีที่เราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการดำเนินการอย่างอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เราจะมีหนังสือบอกกล่าวให้แก่ท่านเพื่อทราบเพิ่มเติม โดยจะระบุถึงข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวและจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อนในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

6.4   ในกรณีที่เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา แล้วท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เราเมื่อมีการร้องขอ เราอาจไม่สามารถปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องข้างต้นได้

7.   การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

7.1   เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกซึ่งเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฯ ฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านนโยบายส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ซึ่งท่านเองก็ตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวเหล่านั้นแยกต่างหากด้วยเช่นกัน

7.2   เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ ให้แก่บุคคลที่สามดังต่อไปนี้

(ก) บริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด: เนื่องจากเราเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในกลุ่มโตโยต้า ซึ่งร่วมมือกันในการให้บริการลูกค้าและให้บริการระบบต่างๆ รวมถึงอาจมอบหมายท่านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทในเครือของเรา เราอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของเราดังต่อไปนี้ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือของเรา เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น

      1) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

      2) บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด

      3) บริษัท โตโยต้า ออโต้ เวิคส จำกัด

      4) บริษัท โตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด

      5) บริษัท โตโยต้า บอดี้ เซอร์วิส จำกัด

      6) บริษัท เทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า จำกัด

      7) บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

      8) บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด

      9) บริษัท อ็อคชั่น เอ็กซ์เพรส จำกัด

      10) บริษัท ฮีโน่ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

      11) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (ญี่ปุ่น)

      12) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค (สิงคโปร์)

 

(ข) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า เลกซัส และโตโยต้าชัวร์: เราอาจแบ่งปันและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ที่ท่านเลือกหรือที่อยู่ใกล้ท่านเพื่อให้บริการแก่ท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น รวมถึงอาจมอบหมายท่านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในผู้แทนจำหน่าย ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th, https://www.lexus.co.th/ และ https://www.toyotasure.com/

(ค) ผู้ให้บริการของเรา: เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความสัมพันธ์ของท่านกับเราภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง 

      1) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์

      2) ผู้ให้บริการด้านความรู้/การศึกษาหรือพัฒนาศักยภาพพนักงาน

(ง) บริษัทคู่ค้าของเรา: ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ศูนย์บริการซ่อมเร่งด่วน Fix Fit ธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ (Supplier) ธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น ที่เราอาจร่วมเสนอหรือเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการให้แก่ท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น รวมถึงอาจมอบหมายท่านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทคู่ค้าของเรา 

(จ) บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด: ในบางกรณี เราอาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่เราเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย

(ฉ) ที่ปรึกษา: ซึ่งรวมถึงทนาย เจ้าหน้าที่เทคนิค และผู้ตรวจสอบบัญชีที่ช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเรา และใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย

(ช)  ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่: ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่วยส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน

7.3   เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกในกรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต ดังนั้นหากกฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อน

8.   การโอนและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

8.1   เนื่องจากเราเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในเครือของโตโยต้า อาจมีการโอนหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างกัน เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายฯ นี้

8.2   เมื่อมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเราจะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระดับที่เพียงพอ และเราจะตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่า ผู้รับโอนข้อมูลในต่างประเทศจะให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยมาตรฐานการคุ้มครองที่เทียบเท่ากับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายของประเทศไทยเช่นเดียวกัน หากจำเป็น

8.3   ในกรณีที่เรามีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากเราพบว่ามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศนั้นไม่เพียงพอตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เราจะขอความยินยอมจากท่านหรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งอนุญาตให้กระทำได้เพื่อโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย

9. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล

9.1   เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้ และตามหน้าที่ของเราภายใต้กฎหมาย โดยหลังจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีกฎหมายให้สามารถเก็บได้อีกต่อไป เราจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบ

9.2   ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่จะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น เพื่องานใดงานหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาบุคลากร เราอาจลบหรือทำลายข้อมูลนั้นหลังสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

9.3   ท่านมีสิทธิที่จะให้เราลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ในบางกรณี เว้นแต่เรามีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามกฎหมายกำหนด

10.   นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้เยาว์

                เราไม่ได้มีเป้าหมายหรือเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ หากท่านเป็นผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถซึ่งต้องการจะติดต่อดำเนินการกับเรา ท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด ผู้พิทักษ์ตามกฎหมายหรือผู้อนุบาลก่อนที่จะติดต่อเราหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา

11. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรา หากท่านประสงค์จะขอใช้สิทธิ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ “วิธีการติดต่อเรา” ข้างต้น

11.1 สิทธิในการเข้าถึง

ท่านอาจขอเข้าถึงหรือขอทราบรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่เราได้ เว้นแต่ เป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือ การเข้าถึงหรือขอทราบรายละเอียดนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น

11.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่อยู่ในความครอบครองของเรานั้นไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์

11.3 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้เราลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้เพิกถอนความยินยอมให้เราทำการเก็บรักษา ใช้ และเปิดเผย และเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่เราจะสามารถเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป

(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ทำการคัดค้านมิให้เราทำเก็บรวบรวมหรือใช้อีกต่อไป และเราไม่สามารถปฏิเสธคำขอคัดค้านโดยอาศัยข้อยกเว้นทางกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ

(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ท่านมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้ข้างต้น เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย  ปฏิบัติตาม ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้ข้อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดไว้

11.4 สิทธิในการจำกัดการใช้

ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ท่านได้ขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน

(ข) ท่านได้ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลที่เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ แทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

(ค) เราหมดความจำเป็นในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เราเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของท่าน

(ง) ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยหรืออ้างประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐ หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน

(จ) ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยหรืออ้างการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ (หากมี) และเราอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคำขอของท่าน

11.5 สิทธิในการคัดค้าน

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น

(ข) เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่เรา

(ค) กรณีที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง

(ง) เป็นการดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ (หากมี)

หากท่านใช้สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ท่านมีสิทธิแจ้งความประสงค์ว่าจะให้เราลบหรือจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมได้

11.6 สิทธิในการโอนย้าย

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ โดยขอให้เราส่งข้อมูลดังกล่าวให้ท่านในรูปแบบเอกสารหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยวิธีการอัตโนมัติได้ เว้นแต่ การขอโอนย้ายข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ภายใต้ข้อจำกัดของวิธีการของเรา

11.7 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยได้  หากเป็นกรณีที่ท่านได้เคยให้ความยินยอมไว้กับเรา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาของเราที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

11.8 สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่พบว่าเราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยท่านสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทางการติดต่อของเรา และท่านอาจร้องเรียนกรณีดังกล่าวไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

12.   การแก้ไขนโยบายฯ นี้

12.1 เราอาจแก้ไขนโยบายฯ นี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ โดยเราจะแจ้งนโยบายที่เปลี่ยนแปลงให้ท่านทราบผ่านช่องทางการติดต่อของเรา

12.2 เราจะใช้นโยบายฯ ฉบับล่าสุด สำหรับอ้างอิงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

นโยบายฯ นี้มีผลบังคับวันที่ 1 มิถุนายน 2565 และให้ใช้แทนนโยบายความเป็นส่วนตัวต่าง ๆ ที่เรากำหนดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด